วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

สรุปวิจัย


Science Experiences Management for Early childhood
EAED3207 การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
Timetable 08.30-12.20  Group 101  No. 32


 วิจัยเรื่อง  การคิดวิจารณญาณของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์

โดย คุณเสกสรร  มาตวังแสง

สรุปได้ดังต่อไปนี้
ความมุ่งหมายของการวิจัย
            1.. เพื่อศึกษาระดับการคิดวิจารณญาณของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์โดยจำแนกรายด้านดังนี้การวิเคราะห์ การใช้เหตุผล การสังเคราะห์ การประเมินค่า
       2. เพื่อเปรียบเทียบการคิดวิจารณญาณของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังได้รับการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์
ความสําคัญของการวิจัย
เป็นแนวทางสําหรับครูในการนํากิจกรรมวิทยาศาสตร์มาใช้สําหรับเด็กปฐมวัยเพื่อพัฒนาการคิดวิจารณญาณของเด็กปฐมวัย นอกจากนี้ยังเป็นแนวทางในการพัฒนาปรับปรุงรูปแบบการจัดกิจกรรม          เพื่อส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยเกิดการคิดได้เต็มตามศักยภาพ  ตามจุดมุ่งหมายของการจัดการศึกษาระดับปฐมวัย ตามแนวทางการปฏิรูปการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ

ขอบเขตของการวิจัย
ประชากร
ประชากรที่ใช้ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้คือเด็กปฐมวัย ชาย หญิงอายุระหว่าง 5 – 6 ปีซึ่งกําลังศึกษาอยู่ในชั้นอนุบาลปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2552 ของโรงเรียนเทศบาลวัดเนินสุทธาวาส (สุทธิพงษ์ประชานุกูล) อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรีสังกัดสํานักการศึกษาเทศบาลเมืองชลบุรี  จํานวน 50 คน
กลุ่มตัวอย่าง
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นเด็กปฐมวัย ชาย หญิง อายุระหว่าง 5 – 6 ปี  กําลังศึกษาอยูในระดับอนุบาลปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2552 ของโรงเรียนเทศบาลวัดเนินสุทธาวาส (สุทธิพงษ์ประชานุกูล) อ.เมืองชลบุรีจ.ชลบุรีสังกัดสํานักการศึกษาเทศบาลเมืองชลบุรี



สรุปผลการวิจัย
จากผลการทดลอง พบว่า เด็กปฐมวัยมีการคิดวิจารณญาณทั้งในภาพรวมและรายด้านสูงขึ้นกว่าก่อนได้รับการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์อยางมีนัยสําคัญทางสถิติ ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้แสดงให้เห็นว่าการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ช่วยส่งเสริมการคิดวิจารณญาณของเด็กปฐมวัยให้พัฒนาอยู่ในระดับที่ดีขึ้นทั้งนี้สามารถอภิปรายได้ดังนี้
 การที่เด็กปฐมวัยมีการคิดวิจารณญาณสูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เพราะรูปแบบการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เด็กเป็นผู้ลงมือปฏิบัติการทดลองด้วยตนเอง เด็กได้สํารวจวัสดุอุปกรณ์จําแนก บอกรายละเอียด ความเหมือน ความแตกต่างของวัสดุอุปกรณ์ตามลักษณะและคุณสมบัติ การจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์จะเน้นการปฏิบัติทดลองรูปแบบกิจกรรมเนื้อหาสอดคล้องกับวัยและวุฒิภาวะในการเรียนรู้ของเด็กเป็นการจัดประสบการณ์ตรงที่เปิดโอกาสให้เด็กได้มีปฏิสัมพันธ์กับวัตถุสิ่งของ เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้เด็กมีโอกาสได้ฟังสังเกต คิดแก้ปัญหาใช้เหตุผลและฝึกปฏิบัติทําให้เด็กเกิดความคิดรวบยอดในเรื่องที่เรียน       ในการจัดกิจกรรมแต่ละครั้งเด็กสามารถเรียนรู้ได้โดยใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าในการเคลื่อนไหวสํารวจเล่น สังเกต สืบค้น ทดลองและคิดแก้ปัญหาด้วยตนเอง ในขณะที่เด็กทําการทดลองจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และคิดหาเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงระหว่างการทดลองที่เกิดขึ้น ซึ่งได้จากการสังเกตและประสบการณ์เดิมของเด็กเอง แล้วเด็กร่วมกันสรุปผลการทดลองที่เกิดขึ้น เด็กช่วยกันคิดและหาข้อสรุปที่ได้จากการสังเกตผลการทดลองอย่างมีเหตุมีผลตามความเข้าใจของตน ทําให้เกิดการพัฒนาทางสติปัญญาหรือความคิด โดยครูจะใช้คําถามเชื่อมโยงจากกิจกรรมเพื่อกระตุ้นให้เด็กได้คิดรวบรวมข้อมูลที่ได้จากการทํากิจกรรม ให้เกิดการวิเคราะห์การใชเหตุผล การสังเคราะห์และการประเมินค่าตัวกิจกรรมนั้นจะเป็นสิ่งที่เอื้ออํานวยให้เด็กสังเกต รับรู้ทําให้เด็กมีโอกาสฝึกคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เด็กได้กระทําลงไป การฝึกให้เด็กได้มีโอกาสพัฒนาการคิดแก้ไขปัญหาต่างๆ เผชิญกับสถานการณ์ที่เป็นปัญหาและสามารถเลือกตัดสินใจได้อย่างถูกต้องเหมาะสม สามารถพัฒนาให้เด็กคิดระดับสูงได้และในการคิดจะต้องให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรงข้อสังเกตที่ได้จากการวิจัย จากการศึกษาครั้งนี้พบว่า
1.             กิจกรรมวิทยาศาสตร์เป็นกิจกรรมที่เด็กได้ลงมือปฏิบัติการทดลองด้วยตนเอง เด็กจะเกิดสนใจและตื่นเต้นในขณะที่ทําการทดลองได้เห็นถึงขั้นตอนในการทดลอง เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และทําให้เด็กเกิดความสงสัยในระหว่างการทดลอง ซึ่งครูจะใช้คําถามกระตุ้นเพื่อให้เด็กได้คิดหาคําตอบและสรุปผลการทดลองตามความเข้าใจของเด็กเอง
2.       การจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เด็กจะได้หยิบ จับ สัมผัสสังเกต วัสดุอุปกรณ์ต่างๆอย่างอิสระ เพื่อวิเคราะห์ลักษณะ ความเหมือน ความแตกต่าง ของวัสดุอุปกรณ์ที่จะนํามาใช้ในกิจกรรมวิทยาศาสตร์

วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ครั้งที่ 12


Science Experiences Management for Early childhood
EAED3207 การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
Timetable 08.30-12.20  Group 101  No. 32
6th November 2014 

วันนี้อาจารย์ให้แต่ละกลุ่มออกมานำเสนอแผนการสอนตัวเองตามเรื่องที่แต่ละกลุ่มได้เขียนไว้ ดังนี้

วันที่ 1 เรื่องชนิดของกล้วย


 

กลุ่มนี้อาจารย์ได้แนะนำว่า ถ้าจะให้ดีกว่านี้ควรใช้สื่อที่เป็นของจริง และถ้านำภาพมาใช้เป็นสื่อก็ไม่ควรใช้มือปิดตัวหนังสือ ควรหาวิธีการอื่นๆ เช่นใช้กระดาษปิด หรือทำเป็นเล่มพับได้ เพื่อให้เด็กเกิดความตื่นเต้นและสนุกสนานในการเรียนรู้

วันที่ 2 เรื่่องลักษณะของไก่



-ครูอาจจะใช้จิ๊กซอว์ให้เด็ก ๆ ต่อภาพ โดยใช้เพลงในการทำกิจกรรมขณะที่ครูร้องเพลงครูก็ให้เด็กหลับตาและแจกจิ๊กซอว์ให้เด็กคนละตัว พอเพลงจบก็ให้เด็กนำจิ๊กซอว์ที่ตัวเองได้ไป่วมกันต่อให้เป็นรูปไก่
-ครูใช้คำถามปลายเปิดในการถามลักษณะของไก่

วันที่ 3 เรื่องวัฎจักรของกบ



ขั้นนำทำออกมาได้ดี  เพราะเพื่อนกลุ่มนี้เปิดวีดีโอเกี่ยวกับวัฏจักรของกบให้เด็กได้ดูถ้าไม่มีวีดีโอก็อาจจะเล่านิทานก็ได้ หลังจากที่เด็ก ๆ ได้ดูวีดีโอครูก็จะใช้คำถามกับเด็ก ๆ เพื่อทบทวนความรู้ที่ได้จากการดูวีดีโอ

วันที่ 4 เรื่องประโยชน์และข้อพึงระวังของปลา



เล่านิทานเกี่ยวกับปลา และในการเล่านิทานครูควรใช้คำถามปลายเปิดสอดแทรก


วันที่ 5 เรื่องทาโกยากิ จากข้าว





ครูบอกชื่อของส่วนผสมที่ใช้ทำทาโกยากิ ในการทำครูควรเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม ครูใหเด็ก ๆ ตั้งสมมติฐาน
สาธิตการทำให้เด็กๆ ดู และหลังจากนั้นให้เด็ก ๆ ลงมือทำเองโดยมีครูดูแลอย่างใกล้ชิด แล้วให้เด็กๆสังเกตการเปลี่ยน


วันที่ 6 เรื่องชนิดของต้นไม้



กลุ่มนี้อาจารย์ให้คำแนะนำว่า ควรบอกชื่อของต้นไม้แต่ละชนิดให้เด็กได้รู้ อาจจะใช้เป็นเพลงหรือคำคล้องจอง
ครูควรใช้คำถามปลายเปิด และในการวางภาพควรวางจากซ้ายไปขวา



วันที่ 7 เรื่องลักษณะของนม



กลุ่มนี้อาจารย์ให้คำแนะนำว่า ควรหาความสัมพันธ์ระหว่งนมที่ได้จากพืชกับนมที่ได้จากสัตว์ว่าแตกต่างกันอย่างไร 


วันที่ 8 เรื่องการอนุรักษ์น้ำ




ขั้นนำ ร้องเพลงหรือคำคล้องจอง เล่านิทานที่สอดแทรกคุณธรรมและใช้คำถามปลายเปิด เช่น เด็กๆจะมีวิธีป้องกันไม่ให้น้ำเน่าเสียได้อย่างไร ครูอาจจะใช้กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์มาร่วมด้วยก็ได้


วันที่ 9 เรื่องการปลูกมะพร้าว



ครูอธิบายเกี่ยวกับวิธีการปลูกมะพร้าว และนำแผ่นภาพขั้นตอนนการปลูกมะพร้าวให้เด็ก ๆ มาเรียงตามขั้นตอน โดยใช้เพลง ลมเพลมพัด ทำให้แผ่นภาพกระจาย แล้วให้เด็ก ๆ ไปนำแผ่นภาพมาต่อให้ถูกลำดับขั้น

วันที่ 10 เรื่องผลไม้ผัดเนย



ในการจัดกิจกรรมอาจจะตั้งโต๊ะเป็นหลาย ๆ โต๊ะ ในกรณีที่มีครูหลายคน
โต๊ะที่ 1 เป็นส่วนผสม
โต๊ะที่ 2 ไว้ใช้หั่นผลไม้
โต๊ะที่ 3 สำหรับประกอบอาหาร
โต๊ะที่ 4 เป็นการจัดอาหารใส่ภาชนะ

เทคนิคการสอน

อาจารย์จะให้นักศึดษานำเสนอเสร็จก่อนจึงจะให้คำแนะนำเพิ่มเติมเพราะจะทำให้นักศึกษานำเสนองานได้แบบราบรื่น ไม่ลืมข้อมูลที่เตรียมมา และอาจารย์จะใช้คำถามปลายเปิดกับนักศึกษาเสมอเพื่อกระตุ้นกาารคิดและการเชื่อมโยงประสบการณ์เดิมและความรู้ใหม่

การนำไปประยุกต์ใช้

สามารถจัดประสบการณ์ให้เด็กได้ในแต่ล่ะหน่วยสามารถนำความรู้ที่ได้จากการเขียนแผนไปบรูณาการกับวิชาอื่นได้

ประเมินหลังการเรียนการสอน


ตนเอง>>>>เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบให้ความสนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมใน                                             ห้องเรียน

เพื่อน>>>>เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบ ให้ความสนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมใน                                              ห้องเรียน

ผู้สอน>>>>เข้าสอนตรงเวลา  แต่งกายสุภาพให้ความสำคัญกับผู้เรียน มีกาารใช้เทคนิคในการกระตุ้นการเรียนรู้ได้ดี  ทำให้ผู้เรียนเข้าใจและ ได้ลงมือปฎิบัติจริง ชอบมากเลยค่ะ














ครั้งที่ 11



Science Experiences Management for Early childhood
EAED3207 การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
Timetable 08.30-12.20  Group 101  No. 32
30th October 2014 

วันนี้อาจารย์ให้นักศึกษามีส่วนร่วมในการทดลอง ที่อาจารย์เตรียมมาให้ทดลอง กระบวนการทดลอง คือ การกำหนดปัญหา ตั้งสมมติฐานและการทดลอง เด็กจะได้ทักษะทางวิทยาศาสตร์ดังนี้ คือ การสังเกต การจำแนกประเภท การวัด  การหาความสัมพันธ์  การลงความเห็นจากข้อมูล การพยากรร์และการคำนวณ จากนั้นอาจารย์ก็ทำการทดลอง ดังนี้

การทดลองจากดินน้ำมัน




โดยแถวที่ 1 -2 ปั้นดินน้ำมันให้เป็นลูกกลมๆ  แถวที่ 3-5 ปั้นยังไงก็ได้ที่จะไม่ให้ดินน้ำมันจมน้ำ แล้วให้แต่ละแถวนำดินน้ำมันที่ตัวเองปั้นไปใส่ลงในขวดโหล จะพบว่าดินน้ำมันของแถวที่ 1-2 จมน้ำเพราะมีมวลมากอากาศไม่สามารถข้าไปได้ แต่แถวที่ 3-5 ไม่จมเพราะเพื่อนทำให้ดินน้ำมันแบนๆและมีลักษณะคล้ายอ่างน้ำดินน้ำมันจึงลอยตัวได้


การทดลอง ดอกไม้บานในน้ำ




พับกระดาษ A4 เป็นสี่ส่วน แล้วตัดเป็นรูปดอกไม้พร้อมตกแต่งให้สวยงามแล้วพับกลีบให้มีลักษณะตูมๆ เมื่อนำดอกไม้ไปใส่น้ำในขวดโหล ดอกไม้ก็จะค่อย ๆ บานออก ซึ่งเกิดจากการดูดซึมของน้ำ ถ้าใช้กระดาษ A4 ดอกไม้ก็จะบานเร็วเพราะกระดาษมีลักษณะที่บางน้ำจึงดูดซึมได้เร็ว  แต่ถ้าใช้กระดาษร้อยปอนด์ดอกไม้ก็จะบานช้าเพราะกระดาษร้อยปอนด์มีลักษณะที่หนาและดูดซึมช้า

การทดลอง ทำไมน้ำถึงต้องไหลที่สูงลงที่ต่ำ





สาเหตุที่น้ำไหลจากที่สูงลงที่ต่ำเพราะมันไหลตามแรงโน้มถ่วงของโลก


การทดลองออกซิเจนช่วยให้ไฟไม่ดับ





     นำเทียนไขมา 1 แท่ง แก้วน้ำ 1 ใบ ไฟแช็ค แล้วจุดเทียนไข ให้ติดไฟ ตั้งเทียนไว้ให้มั่นคงจากนั้นเอา  แก้วน้ำมาครอบเทียนไขที่จุดไว้ จะพบว่าเมื่อเราใช้แก้วครอบเทียนไข ลักษณะของเปลวไฟจะค่อยหรี่ลงๆ จนในที่สุดเทียนไขจะดับ เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ ในอากาศมีออกซิเจนอยู่ซึ่งออกซิเจนมีคุณสมบัติที่ช่วยในการติดไฟ เมื่อเราครอบแก้วลงไปเทียนไขจะสามารถส่องสว่าง ต่อไปได้อีกสักครู่หนึ่ง           จนเมื่อออกซิเจน ถูกเผาไหม้หมด เทียนไขก็จะดับลงทันที


การทดลอง การหักเหของแสง






รังสีของแสงที่เคลื่อนที่จากอากาศเข้าสู่แก้วจะเบนหรือหักเหเข้าเส้นปกติ รังสีของแสงที่เคลื่อนที่ จากแก้วไปสู่อากาศจะหักเหเข้าเส้นปกติ


การนำไปประยุกต์ใช้

สามารถนำกิจกรรมการทดลองและความรู้ี่ได้จากการทดลองในวันนี้ไปใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนกับเด็กปฐมวัยได้ เพราะการทดลองเป็นการฝึกให้เด็กได้สังเกต ได้ลงมือทำและได้สืบเสาะหาคำตอบไปพร้อมกับการลงมือปฎิบัติ ทำให้เด็กกล้าคิด กล้าทำ กล้าตัดสินใจด้วยตนเอง

เทคนิคการสอน

อาจารย์มีสื่อการสอนของจริง ให้นักศึกษาได้ลองปฎิบัติและร่วมกันค้นหาคำตอบร่วมกันพอได้คำตอบแล้วอาจารย์ก็จะอธิบายเพิ่มเติมในสิ่งที่นักศึกษายังไม่รู้ และอาจารย์จะใช้คำถามปลายเปิดในการพูดคุยกับนักศึกษา

ประเมินหลังการเรียนการสอน

ตนเอง>>>>เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบให้ความสนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมใน                                             ห้องเรียน

เพื่อน>>>>เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบ ให้ความสนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมใน                                              ห้องเรียน

ผู้สอน>>>>เข้าสอนตรงเวลา  แต่งกายสุภาพให้ความสำคัญกับผู้เรียน มีกาารใช้สื่อที่เป็นของจริงในการสอน                                        ทำให้ผู้เรียนเข้าใจและ ได้ลงมือปฎิบัติจริง ชอบมากเลยค่ะ















ครั้งที่ 10



Science Experiences Management for Early childhood
EAED3207 การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
Timetable 08.30-12.20  Group 101  No. 32
18 October 2014 


วันนี้เป็นการเรียนการสอนชดเชย ของวันพฤหัสบดี ที่ 23 ตุลาคม พ,ศ,2556  
อาจารย์ได้อธิบายการเขียนแผนการสอนทั้ง 5 วัน ว่าแต่ละกลุ่มจะต้องเขียนอย่างไรบ้างอย่างละเอียด ตรวจทานว่าควรจะแก้ไขตรงไหนบ้าง และให้แต่ละกลุ่มนำกลับไปแก้ไข

 
                                                                Min Map
                                                             
                                                              หน่วยไก่ (chicken) ฉบับแก้ไข




การนำไปประยุกต์ใช้

สามารถนำแผนการสอนเรื่องไก่ ไปประยุกต์ใช้กับรายวิชาอื่นได้

เทคนิคและวิธีการสอน

ใช้คำถามปลายเปิด ในการพูดคุยกับนักศึกษาเรื่องการเขียนแผนการสอน โดยอาจารย์จะมีคำถามมาถามนักศึกษาอยู่เสมอ เพื่อกระตุ้นการเรียนรู้ การกล้าแสดงออกในการแสดงความคิดเห็นของนักศึกษา

ประเมินหลังการเรียนการสอน


ตนเอง>>>แต่งกายถูกระเบียบ เข้าเรียนตรงเวลาและตั้งใจฟังอาจารย์อธิบายเรื่องแผน

เพื่อน>>>> แต่งกายถูกระเบียบ เข้าเรียนตรงเวลาตั้งใจฟังอาจารย์อธิบายเรื่องแผน

ผู้สอน>>>>แต่งกายสุภาพ เข้าสอนตรงเวลา และอธิบายการเขียนแผนการสอนได้อย่างละเอียดและเข้าใจ

วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ครั้งที่ 9


Science Experiences Management for Early childhood
EAED3207 การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
Timetable 08.30-12.20  Group 101  No. 32
16 October 2014 


วันนี้อาจารย์ให้นักศึกษานำของเล่นวิทยาศาสตร์ที่แต่ละคนได้ประดิษฐ์มา Present ซึ่งดิฉันได้ประดิษฐ์โทรศัพท์จากแก้วพลาสติก






วัสดุ/อุปกรณ์ (material/tool)

1.แก้วพลาสติก (Plastic glasses)

2.กระดาษสี (Colored paper)

3.เชือก (String)

4.สี (Color)

5.กรรไกร (scissors)

6.กาว(Glue)





ขั้นตอนการทำ

1. นำแก้วพลาสติกมาเจาะรูที่ก้นแก้วหนึ่งรู

2. สอดเชือกยาวประมาณ 2-3 เมตร เข้าไปที่ก้นของแก้วพลาสติกแล้วผูกเป็นปมที่ปลายเชือก

3.ตกแต่งให้สวยงามตามจินตนาการ




กิจกรรมเสริมประสบการณ์
1. อธิบายการทำโทรศัพท์จากแก้วพลาสติก ตามขั้นตอนได้
2. เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างเชือกที่หย่อนและตึงได้
3. ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้

หลักการทางวิทยาศาสตร์

สียงจะเดินทางได้ต้องอาศัยตัวกลาง  ซึ่งปกติการที่มนุษย์สื่อสารกันธรรมดาอากาศที่อยู่ระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสารนั้นจะเปรียบเสมือนเป็นตัวกลาง แต่สำหรับการทดลองเมื่อเราพูดลงไปในแก้วพลาสติก จะเปรียบเสมือนเป็นอากาศปิด เพราะฉะนั้นเสียงจึงต้องใช้ตัวกลางก็คือเชือกแต่ถ้าเมื่อเราไปรบกวนตัวกลาง โดยเอามือจับไว้ เป็นผลให้เราไม่ได้ยินเสียง





ผลงานของเพื่อนๆ





ประเมินหลังการเรียนการสอน

ตนเอง>>>แต่งกายถูกระเบียบ เข้าเรียนตรงเวลาและมีส่วนร่วมในการนำเสนอผลงานของเพื่อน

เพื่อน>>>> แต่งกายถูกระเบียบ เข้าเรียนตรงเวลาตั้งใจฟังเพื่อนนำเสนอผลงาน

ผู้สอน>>>>แต่งกายสุภาพ เข้าสอนตรงเวลา มีเทคนิคในการสอนที่ดีทำให้นักศึกษาเข้าใจในเนื้อหา

                   มีการแนะนำเทคนิคในการสอนดีมากค่ะ